ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อการประเมินภายนอกรอบที่ 4 ระหว่าง ปี 2559-63
วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559
เรื่องที่ 10 ความเสี่ยงของระบบประกันคุณภาพ : ปัจจัยที่ยับยั้งหรือเอื้อต่อความสำเร็จ
ระบบประกันคุณภาพ คือ ระบบที่มีลักษณะดังนี้
1. มีการควบคุมคุณภาพ(Quality Control)ด้วยการกำหนดมาตรฐาน ตัวบ่งชี้และเกณฑ์การตัดสินคุณภาพ) โดยมาตรฐานและตัวบ่งชี้ต้องครอบคลุมหรือสอดคล้องกับพันธกิจ
2. มีการพัฒนาสู่มาตรฐาน โดยมีการกำกับติดตามอย่างต่อเนื่อง(การกำกับ คุณภาพ-Quality Audit) : ผู้มีหน้าที่จะต้องวางแผนพัฒนางาน ขับเคลื่อนงานตามแผน โดยมีการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ อย่างต่อเนื่อง
3. มีการประเมินคุณภาพ(Quality Evaluation) : จะต้องประเมินคุณภาพการปฏิบัติหรือผลงานตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้ที่กำหนด เป็นระยะ ๆ แล้วให้การรับรองคุณภาพในระดับใดระดับหนึ่ง
รายการปัจจัยเสี่ยงของระบบประกันคุณภาพ
จากการวิเคราะห์พันธกิจของงานประกันคุณภาพทั้งภายในและภายนอก ดังกล่าวข้างต้น ความเสี่ยงหรือจุดอ่อนของระบบประกันคุณภาพอาจอยู่ที่ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งหรือหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. มาตรฐานและตัวบ่งชี้ หรือเกณฑ์การให้คะแนน รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล :
(1) ไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องและครอบคลุมพันธกิจขององค์กร
(2) ไม่เป็นที่รับทราบและเห็นพ้องต้องกันของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง
(3) ไม่ได้พัฒนาบนพื้นฐานของกระบวนการ R&D ที่เป็นระบบ
(4) ยากแก่การปฏิบัติให้บรรลุ ยากแก่การวัด-การประเมิน ฯลฯ
2.แผนงาน/โครงการ หรือกิจกรรมพัฒนา :
(1) ไม่มีแผนระยะยาวในการขับเคลื่อนคุณภาพ
(2) แผน ไม่ครอบคลุม เหมาะสม เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ
ในการดำเนินงานให้บรรลุตามมาตรฐานที่กำหนด
(3) แผนงาน/โครงการ ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
3. ผู้บริหาร/ทีมงานบริหาร/ผู้รับผิดชอบงาน
(1) ไม่มีความรู้ในเรื่องหลักการหรือแนวปฏิบัติในการประกันคุณภาพภายใน
(2) ไม่มีความรู้ในเรื่องมาตรฐานและตัวบ่งชี้รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนน
(3) ไม่พัฒนางานตามแผน อย่างมุ่งมั่น ทุ่มเท มีความบกพร่องในเรื่องการวางแผน การกำกับติดตาม การนิเทศงาน หรือการประเมินความก้าวหน้าของงานเป็นระยะ ๆ
(4) ไม่มีระบบฐานข้อมูลเพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
3. ผู้ประเมินภายในของต้นสังกัด(Internal Evaluator)
(1) ขาดความรู้ในมาตรฐาน ตัวบ่งชี้และเกณฑ์การตัดสินคะแนน
(2) ขาดประสบการณ์ในการชี้แนะ
(3) มีความเกรงใจ จึงประเมินแบบปล่อยคะแนน(Leniency) ฯลฯ
4. ผู้ประเมินภายนอก(External Evaluator) (1) ไม่แตกฉานในมาตรฐานและตัวบ่งชี้ รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนน (2) บุคลิกไม่เป็นกลาง วางอำนาจ (3) ขาดทักษะในการสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์กับบุคคล รวมถึงการทำงานเป็นทีม (4) ขาดความรู้ในบริบทของสถานศึกษาหรือหน่วยงานที่ทำการประเมิน (5) ไม่มีองค์ความรู้ หรือ Best Practice เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานหรือในการประเมิน ที่เป็นประสบการณ์ระดับชาติหรือนานาชาติ ที่สามารถนำมาใช้ในการชี้แนะแก่หน่วยงานหรือผู้รับการประเมิน และ (5) ไม่มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ ไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาแนวคิดใหม่ ๆ ความรู้ร่วมสมัย หรือผลงานวิจัยใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้อง
5. กระบวนการประเมิน การเยี่ยมสถานศึกษา(Site visit) ไม่เป็นระบบ ไม่มีมาตรฐาน
รายการปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ๆ ทั้ง 5 หมวดหมู่นี้ หากมีการวางแผน พัฒนา หรือเตรียมการแก้ปัญหาล่วงหน้า ความเสี่ยงเหล่านี้ก็น่าจะลดลง และเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบประเมินเพื่อรับรองมาตรฐานได้ และในที่สุด จะนำมาซึ่ง "คุณภาพงานขององคกร หรือสถานศึกษา"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น